7-4 ฝรั่งโดนยักษ์ผลักตกบันไดก่อนถึงพื้นดิน
เพื่อนร่วมงานของผม 2
คนเป็นชาวฝรั่งเศส แต่ทำงานที่นิวยอร์ค วันหนึ่งเขาเดินทางมาเยี่ยมลูกค้าในเมืองไทย
วันนั้นเขาว่างในตอนเช้า เขาให้ผมพาไปดูวัดสวยๆบริเวณสนามหลวง
ผมเลยพาเขาไปที่วัดโพธิ์ เขาเห็นคนไทยจุดธูปไหว้อะไร
และพูดอะไรก็ไม่รู้ ผมเลยอธิบายให้เขาฟังว่า คนเหล่านี้เขาจุดธูปเทียนไหว้พระ คนที่จุดธูปดอกเดียวนั่นเขาไหว้
และพูดคุยเรื่องราวของเขา ให้วิญญาณของพ่อแม่ญาติพี่น้องของเขาที่ตายไปแล้วฟัง โดยผ่านศาลของฤาษีท่านนั้น
ผมบอกกับเขาว่า ผมคิดว่าเรื่องนี้ไร้สาระมา 30 กว่าปี จนกระทั่งผมเห็นยายของผมทำ
และก็คุยบอกเรื่องราวต่างๆให้วิญญาณฟังได้จริงๆ ผมเลยยอมรับพุทโธโลยีอันนี้ ซึ่งเป็นพุทโธโลยีตั้งแต่ในสมัยพุทธกาล
เขาตะลึงในสิ่งที่ผมพูด เขารู้ว่าผมเป็นคนไม่โกหก
ทั้ง 2
คนเขาก็อยากคุยเรื่องราวต่างๆให้ยายของเขาแต่ละคน ที่เสียชีวิตไปแล้วฟังเหมือนกัน
เขาเลยจุดธูปคนละดอกที่ศาลของฤๅษีตนนั้น เขาใช้เวลาคุยเรื่องส่วนตัวของเขา เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง
พวกเขาบอกว่า พวกเขาเชื่อว่า ยายของเขาแต่ละคนได้ยิน ( วิญญาณสื่อสารกับคนได้โดยทางจิต คนๆนั้นจะรู้เองว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง
ในตอนนั้น ใจของเขาทำหน้าที่เป็นทั้งยายตัวเองคือ ผู้ฟัง และเป็นทั้งตัวเขาด้วยคือ
ผู้พูด – นี่เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมพวกเขาแต่ละคนจึงคิดว่า ยายของตนเองได้ยิน ไม่ใช่จิตหลอนแต่อย่างใด
)
หลังจากนั้นเขาก็เดินเที่ยวในวัดโพธิ์ต่อ
เขาถามผมเรื่องยักษ์ที่วัดโพธิ์ ผมก็เลยเล่าให้เขาฟัง และยืนยันด้วยว่า ประธานบริษัทของเรา
ก็เคยเจอยักษ์วัดโพธิ์มาด้วยตัวเอง ถ้าไม่เชื่อให้เขาไปถามท่านประธานเอาเอง ตอนเขาไปที่ออฟฟิศของเราคราวหน้า
เขาถามผมว่า ทำยังไงเขาจึงจะเจอยักษ์ด้วยตัวเอง ผมเลยบอกเขาไปว่า ยักษ์เป็นพวกที่มีอารมณ์ดุ
โกรธง่าย คุมอารมณ์ตนเองไม่ค่อยได้ ถ้ายูถ่มน้ำลายลงพื้นฟุตบาทวัดโพธิ์ แล้วท้ายักษ์ให้มาหา
ไอคิดว่าถ้ายักษ์มีจริง ต้องมาหายูแน่ แต่ห้ามยูเอ่ยชื่อไอเด็ดขาด ว่าเป็นคนแนะนำยูให้ทำแบบนี้
เพราะยูจะกลับไปนิวยอร์คในตอนเย็นวันนี้ แต่ไอต้องอยู่ที่นี่ เดี๋ยวไอจะพลอยซวยไปด้วย
ฝรั่ง 2
คน คนหนึ่งเขาไม่กล้าทำ อีกคนใจถึง เขาเดินหายไปอีกทางหนึ่ง สักนาทีหนึ่งเขาก็กลับมา
เขาบอกว่าเขาทำตามที่ผมแนะนำแล้ว ผมบอกว่าเดี๋ยวเขาก็โดนดีเอง แล้วไอบอกยูแล้วว่า อย่าบอกว่า
ไอเป็นคนแนะนำ แล้วทำไมยูมาพูดกับไอว่า ได้ทำตามที่ไอแนะนำแล้ว ไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็เดินเอาหัวไปโขกกับเสาไม้
ที่วางกั้นฝาผนังแห่งหนึ่ง เขาบอกว่า เขามองไม่เห็น เรื่องนี้อาจจะเป็นอุบัติเหตุก็ได้
ตอนบ่ายเขาไปกินข้าวกับลูกค้า
ที่ร้านอาหารจีนใกล้ๆนั้นแห่งหนึ่ง ขณะที่เขากำลังลงบันได ผมมีความรู้สึกว่า มีวิญญาณดวงหนึ่งเดินตามเขาอยู่
แต่ผมไม่กล้าบอกเขา เขาลงบันไดเกือบถึงพื้นแล้ว เหลืออีก 2
ขั้นเขาก็จะเหยียบพื้น แต่จู่ๆเขาก็พุ่งถลำไปข้างหน้าโดยไม่ทราบสาเหตุ
ผมกับคนอื่นเลยสอบถามเขาดู เขาบอกว่าเขาไม่ได้ลื่น แต่มีบางอย่างผลักเขาอย่างแรงลงมา
เขาบอกผมว่า เขาเชื่อแล้วว่ายักษ์มีจริง เขาจะทำอย่างไรถึงจะขอโทษยักษ์ได้ ผมขี้เกียจพาเขากลับไปที่วัดโพธิ์อีกครั้ง
ผมเลยบอกเขาไปว่า ยูจะกลับนิวยอร์คแล้ว ที่สนามบินมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ ยักษ์คงทำอะไรยูไม่ได้แล้ว
แต่ไอนี่อาจจะพลอยซวยเพราะยู ถ้ายักษ์รู้ว่าไอเป็นคนบอกให้ยูถ่มน้ำลายที่ฟุตบาทวัดโพธิ์
และท้ายักษ์ออกมา ยักษ์ไม่ละเว้นไอแน่นอน
เมื่อเร็วๆ ผมได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนร่วมงานคนนี้อีกครั้งทางอีเมล
หลังจากเวลาผ่านไปได้ประมาณ 7 ปี เขายังจำเรื่องราวที่วัดโพธิ์นั้นได้ดี
“ I
remember very well that you told me about the first book. You were still writing
it at the time. Do you remember what happened to me when
we were visiting a temple in Bangkok then: I said bad
things about ghosts(ยักษ์) and kicked my head into a roof
right after that... You said the ghosts were punishing me
for not being respectful. I remember it very well. I am
glad you are doing great and I have a lot of admiration for what you are doing.
“
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น