A A

5-4 การแผ่เมตตาเปรียบเสมือนการเติมน้ำมันรถ

การแผ่เมตตาเปรียบเสมือนการเติมน้ำมันให้รถยนต์วิ่ง เพราะดวงวิญญาณบางดวงโดยเฉพาะดวงวิญญาณที่เพิ่งตาย หรือวิญญาณที่ถูกสวรรค์ลงโทษ ให้อยู่ในภูมิใกล้โลกระยะเวลาหนึ่ง วิญญาณเหล่านี้เขามีกุศลไม่พอ ที่จะส่งตัวเองไปเกิดหรือไปอยู่ในภูมิอื่น พวกเขาจึงมาหาคนที่ยังไม่ตายให้ช่วย แต่คนจำนวนมากไม่รู้ มีการสอนให้กลัวผีมาตั้งแต่เด็ก และหนังต่างๆ ก็ทำเรื่องผีเสียจนน่ากลัวอย่างมาก ขนาดผีมาดูเอง ผมว่าผียังกลัวเลย ผีคงไม่กล้านั่งดูหนังตามลำพัง
วิญญาณเขาเห็นและรู้ว่า ใครมีความสามารถที่เขาจะติดต่อได้ อย่าถามผมนะว่า เขารู้ได้อย่างไร เพราะผมก็ตอบไม่ได้ เอาเป็นว่าเขารู้ก็แล้วกัน เมื่อเขารู้ เขาก็ต้องมาหาคนๆนั้นให้ช่วย พอเขามาหาคนช่วย ปรากฏว่าเขาคุยกับคนเหล่านั้นไม่ได้ นอกจากนี้ สวรรค์ก็มีกฎ ห้ามบอกเรื่องโลกหลังความตายให้มนุษย์รู้ วิญญาณเลยจนตรอก เขาต้องการเพียงกุศลผลบุญนิดหน่อยเท่านั้น เมื่อคุยกับคนไม่ได้ เขาก็เลยลองหลอกคนดู เผื่อจะได้ผล และก็ได้ผลจริงๆ คนที่ถูกหลอก กลัวมาก เขาเลยทำบุญให้ผี เหล่าวิญญาณเห็นว่าวิธีนี้ได้ผล ก็เลยใช้วิธีนี้มาตลอดคือต้องหลอกคน เขาจึงจะทำบุญให้ จะคุยขอผลบุญตรงๆ เขาก็ทำไม่ได้ มันผิดกฎสวรรค์
ท่านต้องรู้ว่า วิญญาณจะอยู่ได้อย่างมีความสุขในปรโลก ก็ด้วยบุญกุศลที่เขาทำไว้ในโลกเท่านั้น ถ้าเขาทำบุญกุศลมาน้อยหรือประมาท คือไม่ทำบุญกุศลเลย พอเขาตายไป บุญเขาก็ไม่ได้ทำมามาก บาปก็มีน้อย ไม่ถึงขั้นต้องตกนรก หรือถ้าตกนรกรับโทษมาแล้ว ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนภพภูมิ แต่ก็ยังเป็นภพภูมิที่ไม่ค่อยมีอะไรกิน แล้วเขาก็ไปไหนไม่ได้ คนตายเหล่านี้เขาเลยจำเป็นต้องพึ่งคนเป็น เรื่องมันก็มีแค่นี้
ผมไม่พูดถึงพวกวิญญาณพยาบาทนะครับ อย่างเช่นที่พระราชินีทรงเล่าให้ฟัง เรื่องคน
ที่ถูกพวกพยายามแบ่งแยกดินแดน 3 จังหวัดภาคใต้ตัดหัว เด็กที่เป็นลูกของคนตายพยายามเอา
หัวพ่อมาต่อ ผมฟังแล้วอดสงสารไม่ได้แต่ขืนผมเข้าไปยุ่ง วิญญาณผีหัวขาดนั้นอาจจะพยายามเข้ามาสิงผม เพื่อให้ผมไปบอกคนอื่นว่า ใครฆ่าเขา นอกจากนี้ เขาก็นับถือศาสนาต่างจากเรา เขาจะยอมรับการแผ่เมตตาและกุศลจากคนต่างศาสนาหรือเปล่า ผมก็ไม่ทราบ ดังนั้น เรื่องนี้ผมเลยไม่กล้าเข้าไปยุ่ง เพราะมีความเสี่ยงมากว่า ผมอาจจะถูกผีสิง แล้วก็เสี่ยงด้วยว่า จะถูกคนร้ายเหล่านี้ฆ่าปิดปาก

ความคิดเห็น