A A

4-3 ปัจจุบันผมทำสมาธิอย่างไร

พูดกันตรงๆ คำภาวนาหรือคำบริกรรมของผมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ท่านผู้อ่านคงจะนำไปใช้ไม่ได้ เพราะเป็นทัศนะความเชื่อและความศรัทธาส่วนตัวของผม และเป็นสิ่งที่ผมรับรู้มาจากโลกวิญญาณ ท่านผู้อ่านแต่ละคน คงมีความเชื่อในศาสนาแตกต่างกันไป ผมไม่ต้องการทำลายความเชื่อ และความศรัทธาทางศาสนาของใครทั้งสิ้น
ปัจจุบัน ผมเข้าสมาธิ โดยการท่องบริกรรมคำพูดเหล่านี้เพื่อให้ใจสงบ ใครจะเรียกว่า
เป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ หรือคำภาวนาอะไรก็แล้วแต่จะเรียก อันนี้ไม่ว่ากัน เริ่มต้น พอผมนั่ง
ลง ผมจะท่องในใจอย่างช้าๆว่า
“ องค์พระผู้เป็นเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ขอขนานนามพระองค์ว่า พระอมิตาพุทธ โอม…อมิตพุทธ โอม…อมิตพุทธ โอม…อมิตพุทธ ข้าพระองค์ขอขนานนามอื่นของพระองค์ด้วย โอ่…พระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า โอ่… พระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า โอ่… เจ้าแม่กวนอิม ข้าพระองค์รู้แล้วว่า พระองค์คือองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์รู้แล้วว่า พระองค์คือองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์รู้แล้วว่า พระองค์คือองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์ไม่ต้องการสิ่งหนึ่งสิ่งใดจากพระองค์เลย แต่ข้าพระองค์ขอใช้นามของพระองค์ เพื่อนำพาจิตของข้าพระองค์ เข้าสู่สมาธิและความสงบภายใน ”
ผมจะภาวนาแบบนี้ไปอีก 2-3 เที่ยว แล้วผมจะท่อง “ รัก เมตตา กรุณา และให้อภัย ” ไปเรื่อยๆ บางทีถ้าเบื่อ ผมก็จะท่อง “สงบ ว่างเปล่า ไม่มี ” หรือไม่ก็ท่อง “สะอาด บริสุทธิ์ ไม่มี” แทนบางครั้งผมก็นับ 1-10 ไปสัก 7-10 เที่ยว หลับก็ไม่เป็นไร ผมไม่สน และไม่เคร่งครัด ผมสังเกตว่า ถ้าผมทำสมาธิก่อนนอนและหลับไป ผมจะไม่ค่อยฝัน ถ้าฝัน ผมก็จะฝันดีมาก ไม่เคยฝันร้ายเลย
ความจริงคำภาวนาถึงองค์พระผู้เป็นเจ้า(แท้จริง)ของผม ผมจะภาวนาถึงพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า(แท้จริง)ในพระนามอื่นๆ อีกหลายพระนามด้วย เพราะผมรู้ในจิตว่า พระเจ้าแท้จริงมีเพียงพระองค์เดียว พระองค์เป็นจิตหรือใจที่บริสุทธิ์ แต่พระองค์มีพระวรกายมากมาย แต่ผมต้องตัดทิ้ง เพราะผมกลัวว่า จะเกิดความขัดแย้งทางศาสนาขึ้น นอกจากนี้ จะทำให้ท่านที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ และพยายามทำตามอย่างผม อาจต้องเสียสมาธิ มีจิตใจคิดฟุ้งซ่าน ไปลังเลสงสัยต่างๆ นาๆ ว่า พระเจ้าของเขาไปเกี่ยวอะไรกับของเราไปแบ่งฝ่ายแบ่งพวกอีก คิดโน่นคิดนี่ คิดไปคิดมา จนท่านทำสมาธิไม่ได้เลย จะมีแต่ความคิดขัดแย้งทางศาสนามั่วไปหมด รุมเข้ามาอยู่ในหัวของท่าน ด้วยเหตุนี้ คำภาวนาหรือบริกรรมของผม จึงเป็นเรื่องส่วนตัวของผมเพียงผู้เดียวเท่านั้น ผมไม่แนะนำให้ใครลอกเลียนแบบ
ท่านควรจะใช้คำบริกรรมใดดี เพื่อให้จิตเกาะรู้และเป็นสมาธิ?
คำตอบก็คือ ก็แล้วแต่ตัวท่านเอง ท่านจะใช้คำบริกรรมยาวๆแบบผมก็ย่อมทำได้ หรือจะใชัคำบริกรรมสั้นๆ หายใจเข้า บริกรรมว่า “พุทธ” หายใจออก บริกรรมว่า “โธ” ก็ได้ หรือท่านจะใช้วิธีที่ผมอธิบายมาแล้วเบื้องต้นก็ได้ ประเด็นสำคัญคือ วิธีนั้นต้องเป็นวิธีที่สุดสำหรับท่าน และจะต้องทำให้จิตท่านค่อยๆสงบภายใน ไม่ฟุ้งซ่าน
สำหรับท่านที่นับถือศาสนาคริสต์ และท่านที่นับถือศาสนาอิสลาม ท่านจะใช้บทสวด
มนต์หรือบทสวดภาวนาถึงพระเจ้า เป็นคำพูดบริกรรมเพื่อให้เกิดสมาธิ ก็ไม่มีอะไรผิด ท่านต้องเข้าใจว่า เมื่อท่านเกิดสมาธิขึ้นในจิต เป็นผลมาจากคำบริกรรมหรือคำภาวนานั้น ถ้อยคำเหล่านั้นไม่ได้สลายกลายเป็นศูนย์ แต่มันได้กลับกลายเป็นกุศลในจิตของท่าน การบริกรรมของผม ไม่ว่าจะเป็น “ รัก เมตตา กรุณา และให้อภัย ” หรือ “สงบ ว่างเปล่า ไม่มี ” ผมไม่ยึดติด ถ้าเบื่อผมก็เปลี่ยน ถ้าจิตสงบดีแล้ว ผมก็จะไม่ท่องอะไรเลย

ความคิดเห็น