3-3 แดนสุขาวดีในศาสนาพุทธ
ในศาสนาพุทธก็มีอาณาจักรคล้ายกับพรหมโลกสำหรับมนุษย์
ที่ไม่ต้องการเสี่ยงว่าวิญญาณของเขาจะตกนรกหรือจะได้ขึ้นสวรรค์กันแน่ พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนถึงดินแดนแห่งนี้ว่า
เป็นแดนสุขาวดี ซึ่งเกิดขึ้นจากความปรารถนาของพระอมิตาภพุทธเจ้า ศาสนาพุทธฝ่ายมหายานคงจะรู้จักชื่อแดนสุขาวดีนี้เป็นอย่างดี
เพราะแดนนี้เป็นแดนปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงนิพพานสถานเดียว ไม่มีการหวนกลับมาในภูมิต่ำเพื่อเวียนว่ายตายเกิดอีก
แดนสุขาวดีนี้เกิดขึ้นจากปณิธานของพระอมิตาภพุทธเจ้า
ที่ต้องการให้มีโลกธาตุแห่งนี้ขึ้น เป็นดินแดนเสมือนที่พักระหว่างสังสารวัฏกับพระนิพพาน
พระอมิตาภพุทธเจ้าจะได้ช่วยสอนสรรพสัตว์ต่างๆ ก่อนที่พระองค์จะเข้าสู่พระนิพพาน
ผู้จะเข้าถึงแดนสุขาวดีได้ ต้องศรัทธาและปรารถนาจะบังเกิดในแดนสุขาวดี
หลักการคือ
1. ศรัทธาเชื่อมั่นในพระอมิตาภพุทธเจ้า
2. ตั้งจิตอธิษฐานขอไปเกิดในแดนสุขาวดี
3. ท่านจงตั้งใจมั่นเพียงครั้งเดียว
แล้วท่องภาวนาเอ่ยพระนาม “พระอมิตาภพุทธเจ้า”
เพียงแค่นี้ท่านก็จะต้องเข้าไปเกิดในดินแดนนี้แน่นอน
100% ไม่มีอะไรขัดขวางท่านได้ผมแนะนำให้ท่านผู้ไม่ยึดติดนิกายหินยานจนเคร่งครัด
อธิษฐานจิตเถอะครับ มีพระสูตรถึง 3 พระสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสถึงแดนสุขาวดีเอาไว้คือ
1. มหาสุขาวดีวยูหสูตร 2. อมิตายุรธยานสูตร 3. จุลสุขาวดียูหสูตร
แม้ว่าผมยังไม่เคยสัมผัสตัวเทพในแดนสุขาวดี
แต่ผมเชื่อและยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธองค์ ผมไม่อยากให้พวกท่านต้องเสี่ยงวัดดวงเอาเองว่า
เมื่อท่านตายไปแล้ว ท่านจะตกนรกหรือไม่ ทางรอดของท่านมีอยู่แล้ว ผมสัมผัสวิญญาณมามาก
ผมไม่อยากให้ใครต้องตกนรกเลย ผมจึงจำเป็นต้องเปิดเผยเรื่องนี้กับท่าน
ส่วนท่านที่ต้องการเวียนว่ายตายเกิด
และเสี่ยงว่าจะตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ ก็ต้องปล่อยเขาไป เพราะแดนสุขาวดีเป็นแดนแห่งการปฏิบัติธรรม
โดยมุ่งเข้าสู่นิพพานอย่างเดียว ท่านที่ยังติดสุขในทางโลกอยู่ อย่างผมนี่ ผมไม่ยอมเข้าไปในแดนสุขาวดีหรอก
พรหมโลกในศาสนาคริสต์ผมก็ไม่อยากเข้าไป สำหรับผมถือว่าเป็นการเซ็งสุดๆ แต่สำหรับท่านที่มีจิตใจเต็มไปด้วยอกุศลและทำแต่บาป
ผมแนะนำให้ท่านเข้าแดนสุขาวดี ดีกว่าต้องตกนรกเป็นไหนๆ
หลักการที่คนที่ยังติดสุขในทางโลกควรปฏิบัติเพื่อหนีนรกคือ
ต้องหัดสำนึกบาปอย่างจริงใจ และหมั่นทำแต่ความดีเอาไว้ ก่อนที่จะหมดโอกาสทำ เท่านี้ท่านก็ได้ขึ้นสวรรค์แล้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น