2-4 สิทธิของวิญญาณ และการลงโทษเพื่อให้วิญญาณได้เดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง
ดังได้กล่าวมาแล้วว่า มนุษย์จำเป็นต้องฝ่าด่านสิ่งลวงต่างๆไปให้ได้
เพื่อเข้าไปรวมกับองค์พระผู้เป็นเจ้าแท้จริง ตราบใดที่มนุษย์ยังไม่สามารถละทิ้งทั้งความดีและความชั่ว
พระองค์ก็ห้ามเขา ไม่ให้เขาสามารถถอดร่างกายและวิญญาณของเขา ออกจากเกมส์อัตตา-อนัตตา เพื่อไปรวมกับพระองค์โดยเด็ดขาด จะต้องเวียนว่ายตายเกิด เล่นเกมส์นี้กับพระเจ้าแท้จริง
ต่อไปเรื่อยๆจนชั่วกัลปาวสาน
อย่างไรก็ตาม พระเจ้าแท้จริงได้ให้สิทธิวิญญาณแต่ละดวง
สามารถเปลี่ยนร่างกายของตนเองได้ จะเป็นเทวดา เป็นสัตว์เดรัตฉาน เป็นเปรต เป็นอสุรกาย
เป็นพรหม หรือกลับเป็นมนุษย์อีกก็ได้ แต่ดวงวิญญาณดวงนั้นต้องเป็นดวงเดิม และร่างกายของเขาต้องเปลี่ยนสภาพไปตามการกระทำของเขาเองภายใต้กฎแห่งกรรม
ถ้าใจของวิญญาณถูกครอบงำด้วยกิเลสและความชั่ว
และได้กระทำบาปอย่างมหันต์ วิญญาณของเขา ก็จำเป็นต้องถูกนำไปล้างบาปกรรมที่ทำไว้ออกในนรก
โทษในนรกจะมีความรุนแรงและทารุณเท่ากับจิตใจของเขา ไม่มีการลงโทษ
หรือการทารุณกับวิญญาณใดๆ ที่รุนแรงเกินกว่าจิตใจของเขาแม้แต่น้อย
ต้องย้ำว่า เมื่อจิตทั้งหมดยังเป็นพระเจ้าแท้จริงอยู่
พวกเขาได้ใช้พลังของพวกเขาร่วมกันเนรมิตนรกสวรรค์และพรหมโลกขึ้นมา ทั้งนี้เพื่อทำการลงโทษและให้รางวัลตัวเองตามสภาวะจิต
และการกระทำของตัวเอง เมื่อจิตเหล่านี้ ซึ่งเป็นผู้เล่น ถูกยุแหย่โดยพระเจ้าฝ่ายดำและฝ่ายขาว
จิตเหล่านี้จึงค่อยๆเสื่อมทรามลง สุดท้ายเลยตกชั้นลงมาเรื่อยๆ จนถึงชั้นสวรรค์ และในที่สุดก็ร่วงลงมาอยู่ในนรก
โทษในนรกมีไว้เพื่อสั่งสอนจิต และวิญญาณของผู้หลงทาง ให้พวกเขาได้หลาบจำ จะได้หาทางเดินใหม่
เดินไปในอีกทิศทางหนึ่งที่ตรงกันข้ามกันคือ ทำความดีมากขึ้น และค่อยๆละความดีออก เพื่อทำทางสายกลางที่บริสุทธิ์กว่า
โดยจิตจะต้องไม่ไปติด และยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดๆ
วิญญาณแต่ละดวง หลังจากได้รับโทษจากนรกแล้ว
ถ้าพอมีความดีอยู่บ้าง ก็จะถูกส่งไปรับรางวัลในสวรรค์ต่อ ก่อนที่วิญญาณดวงนั้นจะถูกส่งตัว
เดินทางกลับไปจุติในภพมนุษย์และสัตว์เดรัจฉานอีกครั้งหนึ่งวิญญาณบางดวงถูกไฟนรกที่ร้อนแรงแผดเผา
พวกเขาคิดว่า ไม่เป็นธรรมและรุนแรงเกินไป แต่ความจริงแล้ว ไฟนรกที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากไฟแห่งกิเลส ราคะ และความชั่วที่ตัวเขาสร้างขึ้นมานั่นเอง
ไฟนั้นจะดับมอดลงทันที เมื่อเขามีจิตใจที่เป็นกุศลเกิดขึ้น หักล้างกับจิตใจที่เป็นอกุศล
แต่ถ้าใจของวิญญาณดวงนั้นไม่มีกุศลเลย เขาจะต้องตกนรกอยู่อย่างนั้น จนกว่าเขาจะรับผลแห่งกรรมชั่วหรือวิบากกรรม
ที่ตนเองทำไว้หมดสิ้นแล้ว
วิญญาณแต่ละดวงจะเก็บข้อมูลการกระทำความดีความชั่ว
และความใจบุญหรือความทารุณโหดร้ายในใจของตนเองเอาไว้ โดยไม่มีวันลืมเลือน เกมส์อัตตา-อนัตตาของพระเจ้าแท้จริง พระองค์(หรือจิตบริสุทธิ์ที่อยู่ในภาวะนิพพาน)ได้ร่วมกันสร้างขึ้นไว้เมื่อในอดีตอันไกลแสนไกล หาระยะเวลาเริ่มต้นไม่ได้ รู้แต่เพียงว่าซากศพของสรรพชีวิตที่วิญญาณดวงนั้นเคยไปจุติ
เอามากองเรียงซ้อนๆกัน จะสูงใหญ่กว่าภูเขาเสียอีก นี่ยังไม่นับรวมระยะเวลาที่วิญญาณแต่ละดวงต้องรับโทษในนรก
และเสวยสุขในสรวงสวรรค์ ด้วยเหตุนี้ การหาจุดเริ่มต้นของเกมส์นี้จึงยากมากๆ จนแทบเป็นไปไม่ได้อย่างไรก็ดี
ก็ยังมีผู้หาจุดเริ่มต้นของเกมส์อัตตา-อนัตตาเจอจนได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น