2-1 ตำนานหรือนิยายสมัยใหม่หรือความลับของฟ้า เรื่องการสร้างจักรวาลและสรรพสิ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่แท้จริง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นานเกินกว่าจะจินตนาการ หรือฝันถึงได้ว่านานเท่าไร ตอนนั้นสรรพสิ่งในจักรวาลไม่มีอะไรอยู่เลย มีแต่ความมืดมิด และองค์พระผู้เป็นเจ้าแท้จริง พระเจ้าแท้จริง พระองค์เป็นเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น ที่มีอยู่จริงในจักรวาล แต่พระองค์ไม่ใช่สสารพระองค์เป็นจิตและพลังงาน พลังงานของพระองค์เป็นสิ่งที่มหัศจรรย์อย่างยิ่ง พลานุภาพและอำนาจของพระองค์ก็มหาศาลสุดพรรณนาดังได้กล่าวมาแล้วว่า ในจักรวาลนี้ไม่มีสิ่งใดหรืออะไรเลยที่มีอยู่จริง ยกเว้นองค์พระผู้เป็นเจ้า(แท้จริง) พระเจ้า(แท้จริง)เป็นจิตที่แท้และจิตเป็นที่บริสุทธิ์ ถ้าจะพูดว่า พระองค์มีเพียงพระองค์เดียว หรือจะพูดว่าพระองค์มีกายเป็นจำนวนอนันต์ แต่มีใจเป็นหนึ่งเดียว เป็นใจที่บริสุทธิ์ที่สุด อันใดอันหนึ่งก็ย่อมได้ พระเจ้าแท้จริงมีความเป็นอมตะและมีความเป็นนิรันดร สภาวะของพระเจ้าแท้จริงเป็นสภาวะธรรมชาติที่รู้แจ้ง และเป็นสภาวะที่แจ่มใส พระองค์เป็นอยู่อย่างเป็นสุขหมดจดชั่วกัลปาวสาน พระองค์ไม่มีจุดเกิด(จุดเริ่มต้น) ไม่มีการเสื่อม ไม่มีความโศก ไม่มีการเจ็บ ไม่มีการตาย(จุดสิ้นสุด) และไม่มีที่สุด ซ้ำยังมีเสถียรภาพสถาพรด้วย

อย่างไรก็ดี การที่พระองค์ต้องอยู่ตามลำพังในจักรวาล พร้อมๆกับฤทธานุภาพและพลานุภาพอันมหาศาล ฤทธานุภาพและพลานุภาพเหล่านั้น มันก็หามีประโยชน์อันใดไม่ ถ้าพระองค์ไม่ใช้มัน

วันหนึ่ง….พระองค์เกิดความคิดดีๆขึ้นมาอย่างหนึ่ง คือพระองค์จะอยู่เปล่าๆ พร้อมกับอำนาจอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ชั่วกัลปาวสาน โดยไม่ทำอะไรเลย ไม่ได้อีกต่อไป พระองค์ต้องทำอะไรบ้าง ใครจะใช้คำพูดว่า พระองค์เกิดนึกสนุกขึ้นมา หรือใครจะคิดเหตุผลอื่นใดมาอธิบายพระองค์ ก็แล้วแต่จะคิด แต่ที่สำคัญก็คือ พระองค์ต้องอยู่ตลอดกาลที่นี่ ด้วยเหตุนี้ การที่พระองค์คิดทำอะไรขึ้นมาเล่นบ้าง จึงไม่ใช่เรื่องแปลก และแล้ว……. พระองค์ทรงนึกถึงเกมส์ปริศนาซ่อนหาเกมส์หนึ่ง พระองค์ทรงรู้ว่าทุกสรรพสิ่งไม่มีอยู่ มีเพียงกายและใจของพระองค์เท่านั้นที่มีอยู่จริง ดังนั้นพระองค์จึงตัดสินใจจะเล่นเกมส์ที่มีชื่อว่า เกมส์อัตตา-อนัตตา กติกาก็ง่ายๆ ใครหาเจอและปฏิบัติได้จริงว่า แท้จริง อัตตาทั้งมวลก็คืออนัตตา ผู้นั้นก็เป็นผู้ชนะ

แต่เอ๊! แล้วพระองค์จะเล่นเกมส์นี้กับใครดี เพราะทั้งจักรวาลก็มีแต่ความมืดมิดและตัวของพระองค์เอง แต่ก็ยังโชคดี ที่อณูหรือกายของพระองค์ซึ่งเป็นอนัตตา สามารถแผ่ไปได้โดยไม่มีขอบเขตจำกัด และยังมีจำนวนไม่จำกัดด้วย ส่วนใจของพระองค์ แม้ว่าจะมีใจเดียวคือใจที่บริสุทธิ์ แต่มันก็มีปริมาณมากมายมหาศาลเสมือนน้ำในมหาสมุทร ที่สามารถบรรจุไปในกายแต่ละกายได้ไม่จำกัด เมื่อจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล เต็มไปด้วยความอ้างว้างและความมืดมิด จึงหาใครมาเล่นเกมส์กับพระองค์ไม่ได้ ดังนั้นเมื่อไม่มีใครเล่นเกมส์กับพระองค์ พระองค์จึงจำเป็นต้องเล่นเกมส์นี้กับตัวของพระองค์เอง

คิดได้ดังนั้น พระองค์จึงได้แผ่อณูของพระองค์ออกไปทั่วจักรวาล อันหาขอบเขตมิได้ จากอณูของพระองค์ที่มีนับไม่ถ้วน และไม่มีที่สิ้นสุด พระองค์ทรงสั่งพวกมันว่า “ จงมีขึ้น และจงเกิดขึ้น ” ทันใดนั้นด้วยอำนาจแห่งใจของพระองค์ กลุ่มอณูต่างๆของพระองค์ จึงเกิดการอัดแน่นพลังงานจากกายของพระองค์ ได้ถูกพระองค์ทำให้เป็นพลังงานที่แข็ง เสมือนมันถูกแช่แข็ง(FROZEN ENERGY) พวกมันจึงก่อเป็นรูปขึ้น มีลักษณะเสมือนเป็นอัตตาหรือสสาร(แท้จริง)

กำเนิดเป็นจักรวาลรูปแบบใหม่ ซึ่งไม่ใช่มีแต่ความมืดมิด แต่มีสภาพเป็นทั้งของแข็ง ของเหลว

และก๊าซ ทุกสรรพสิ่งดูเหมือนเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง และมีอัตตา ทั้งๆที่ มันเป็นเพียงพลังงานเท่านั้น

กลุ่มพลังงานนี้ แท้จริงก็คือกลุ่มกายหรือกลุ่มอณูของพระองค์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่เล็กที่สุด กระจายอยู่ทั่วจักรวาล เรียกว่า “ควาร์ค” หรือ “กายธรรมชาติ” กลุ่มพลังงาน(หรือกายธรรมชาติ )นี้ เมื่อมันถูกพระองค์ทำให้แข็ง ทุกสรรพสิ่งที่เคยมีสภาพเป็นอนัตตาอย่างชัดเจน คือ ไม่มีตัวตน และไม่มีอยู่ ตอนนี้พวกมัน ได้เปลี่ยนเป็นอนัตตาที่ไม่ชัดเจนเสียแล้ว พูดง่ายๆก็คือ พวกมันได้เปลี่ยนแปลงรูป และแปลงโฉมใหม่ มีสภาพเสมือนว่า พวกมันทั้งหมดเป็นอัตตา ทั้งๆที่อัตตาไม่เคยมีอยู่เลย สสารนั้นมองดูเหมือนเป็นอัตตา แต่ถ้าเข้าไปถึงขั้นอณูที่เล็กที่สุดแล้ว ปรากฏว่ามันเป็นแค่พลังงาน ที่เป็นเพียงอนัตตา

หลังจากพระเจ้าแท้จริงได้สร้างทุกสรรพสิ่งแล้ว พระองค์ก็ได้วางกฎเกณฑ์ของจักรวาล

และของสรรพสิ่งทั้งปวง พระองค์บังคับให้ทุกสรรพสิ่งเดินไปตามกฎเกณฑ์นั้น โดยพระองค์แอบคุมเกมส์อยู่อย่างเงียบๆ โดยผ่านกายของพระองค์เองคือ กายธรรมชาติทั้งหมด ซึ่งเป็นตัวรู้ที่มีใจเป็นหนึ่งเดียว และเป็นสัพพัญญู กายธรรมชาติเหล่านี้ ครอบคลุมอยู่ทั่วทั้งจักรวาล และเป็นกายของทุกสรรพสิ่ง พวกมันอยู่ภายใต้การควบคุมโดยใจของพระองค์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นใจของจักรวาล